ต้นทุนขายคืออะไร? สูตรและวิธีคำนวณง่ายๆ

Aditya Shrivastava

การมีข้อมูลและความสามารถในการควบคุมกระแสเงินสดของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดคือการอยู่รอด กระแสเงินสดถูกระบุว่าเป็นสาเหตุหลักที่ธุรกิจจำนวนมากประสบปัญหาหรือล้มเหลวในการจ่ายเงินเดือนพนักงานอยู่เสมอ ดังนั้น การรู้ว่าจะจัดการต้นทุนอย่างไรและที่ไหนจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

ต้นทุนขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำความเข้าใจและบริหารจัดการให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าต้นทุนขายคืออะไร คำนวณอย่างไร และมีมาตรการใดบ้างที่คุณสามารถใช้เพื่อลดหรือจัดการต้นทุนขายในฐานะธุรกิจระหว่างประเทศได้

📝 สารบัญ

send-money-to-thailand

ต้นทุนขายคืออะไร¹

ต้นทุนขาย หรือ ต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold - COGS) คือต้นทุนทางตรงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าหรือบริการให้พร้อมสำหรับการขาย ต้นทุนขายใช้ประเมินว่าสินค้าแต่ละหน่วยมีต้นทุนเท่าใดสำหรับธุรกิจ และช่วยให้ธุรกิจคำนวณกำไรขั้นต้นและส่วนต่างกำไรจากรายได้ที่สร้างขึ้นมาได้

ต้นทุนขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักที่ช่วยให้ธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าทางกายภาพเข้าใจถึงความสามารถในการทำกำไรของสินค้าได้ชัดเจนขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ กำไรขั้นต้น คำนวณได้จากการนำรายได้จากการขายมาหักด้วยต้นทุนของสินค้า

💡สิ่งสำคัญที่ควรกล่าวถึงในที่นี้คือ ต้นทุนขายเป็นค่าใช้จ่ายหลักทางธุรกิจ แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยจากค่าใช้จ่ายทั่วไป โดย COGS เป็นรายจ่าย (expenditure) ซึ่งหมายถึงการนำทรัพยากรหรือเงินไปใช้โดยตรงในการสร้างหรือผลิตบางสิ่งบางอย่าง ส่วนค่าใช้จ่าย (expense) คือการที่คุณใช้เงินไปกับสิ่งของหรือการบริโภค โดยปกติแล้ว ทั้งสองคำมักใช้สลับกันได้ แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันโดยพื้นฐาน²

อะไรบ้างที่รวมอยู่ในต้นทุนขาย³

มีปัจจัยหลายอย่างที่ประกอบกันเป็นต้นทุนขาย และตัวแปรที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งคือต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า รวมถึงต้นทุนชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบสินค้า หากคุณนำเข้าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนมาใช้ในการผลิตสินค้าจากต่างประเทศ คุณก็สามารถเพิ่มค่าขนส่งและค่าระวางเข้ากับต้นทุนรวมได้ด้วย

นี่คือต้นทุนอื่นๆ บางส่วนที่เพิ่มเข้าไปในต้นทุนขาย:

  • สินค้าที่มีไว้เพื่อการขายต่อ
  • ต้นทุนบรรจุภัณฑ์
  • ต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
  • ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่าย
  • เงินเดือนของทีมที่ดูแลการผลิต
  • เงินเดือนของพนักงานที่ผลิตหรือประกอบสินค้า
  • ต้นทุนการจัดเก็บในคลังสินค้าหรือการขนส่ง (เช่น เพื่อจัดเก็บสินค้า)

ต้นทุนขายไม่ได้จำกัดเพียงแค่การรวมต้นทุนวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่ใช้ไปในการผลิตสินค้า แต่ยังรวมถึงต้นทุนการนำเข้าชิ้นส่วนและวัสดุ รวมถึงต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการตลาดหรือการขายสินค้าอีกด้วย

สูตรคำนวณต้นทุนขาย³

สูตรทั่วไปสำหรับต้นทุนขาย หรือต้นทุนสินค้าที่ขาย มีดังนี้:

cost-of-sales-formula

สูตรแบบละเอียดมีดังนี้:⁴

cost-of-sales-formula

สูตรนี้ถูกนำไปใช้โดยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกเพื่อกำหนดต้นทุนสินค้าที่ขาย ทั้งนี้บริษัทบางแห่งยังมีสูตรแบบผสมผสานของตนเองซึ่งอิงจากการเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังด้วย

วิธีการคำนวณต้นทุนขาย⁴

เมื่อเราได้ทราบแล้วว่าต้นทุนขายคืออะไร มีองค์ประกอบใดบ้าง และมีสูตรการคำนวณอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าจริงๆ แล้วสูตรที่ระบุไว้ในส่วนก่อนหน้าจะมีตัวแปรหลายอย่างที่ส่งผลต่อต้นทุนโดยรวม

สินค้าคงคลังต้นงวด

สินค้าคงคลังต้นงวดรวมถึงสินค้า วัตถุดิบ และวัสดุอื่นๆ ทั้งหมดที่คุณมีอยู่ ณ ต้นปี (โดยปกติคือต้นปีงบประมาณใหม่) สินค้าคงคลังต้นงวดคำนวณได้จากการนำจำนวนหน่วยที่เหลืออยู่ ณ ต้นปีมาคูณกับราคาต่อหน่วยที่ใช้ในขณะที่ซื้อสินค้าเหล่านั้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อสินค้า 1,000 หน่วยในราคาหน่วยละ 10 ปอนด์เมื่อต้นปี 2021 สินค้าคงคลังต้นงวดของคุณจะเท่ากับ 1,000 * 10 ปอนด์ = 10,000 ปอนด์ เนื่องจากคุณจะใช้สินค้าจากสินค้าคงคลังของคุณก่อนที่จะซื้อสิ่งใหม่เข้ามา สินค้าคงคลังต้นงวดจึงถูกนำไปบวกในสูตร

การซื้อวัตถุดิบ

วัตถุดิบเป็นพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ทุกชนิด และวัตถุดิบใดๆ ที่ยังไม่มีในสินค้าคงคลังของคุณจะต้องสั่งซื้อ และต้นทุนในการสั่งซื้อนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในสูตรต้นทุนขาย หากคุณนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ คุณจะต้องเพิ่มค่าระวางหรือค่าขนส่งเข้ากับต้นทุนการซื้อด้วย

ต้นทุนวัตถุดิบก็คำนวณในลักษณะที่คล้ายคลึงกับสินค้าคงคลังต้นงวด คุณนำจำนวนหน่วยที่ซื้อมาคูณกับราคาต่อหน่วยที่กำหนด ณ ตอนนั้น ดังนั้น หากคุณสั่งซื้อวัตถุดิบ 5,000 หน่วยในราคาหน่วยละ 10 ปอนด์ มูลค่าการซื้อวัตถุดิบของคุณจะอยู่ที่ 5,000 * 10 ปอนด์ = 50,000 ปอนด์

ต้นทุนแรงงาน

แรงงานเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในกระบวนการผลิต และต้นทุนแรงงานจะต้องถูกรวมอยู่ในต้นทุนขายเพื่อให้ได้มูลค่าที่แม่นยำยิ่งขึ้น คำนวณได้จากการนำค่าจ้างรายชั่วโมงที่คุณจ่ายให้พนักงานมาคูณกับชั่วโมงการผลิตและจำนวนแรงงานที่คุณมี พูดง่ายๆ ก็คือ หากค่าจ้างรายชั่วโมงอยู่ที่ 10 ปอนด์ และคุณมีพนักงาน 100 คนที่ใช้เวลา 1,000 ชั่วโมงในการผลิต คุณจะได้ 10 ปอนด์ * 1,000 * 100 = 1,000,000 ปอนด์

ต้นทุนการผลิต

ต้นทุนการผลิตประกอบด้วยต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนเกินรายชั่วโมง ซึ่งรวมถึงค่าสาธารณูปโภคและทรัพยากรอื่นๆ ที่ใช้ไปในกระบวนการผลิต และชั่วโมงการผลิตด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ หากต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนเกินต่อชั่วโมงของคุณคือ 100 ปอนด์ และชั่วโมงการผลิตคือ 1,000 ชั่วโมง ดังในตัวอย่างก่อนหน้านี้ คุณจะได้ 100 ปอนด์ * 1,000 = 100,000 ปอนด์

สินค้าคงคลังปลายงวด

มูลค่าสุดท้ายคือสินค้าคงคลังปลายงวด ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคือมูลค่ารวมของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่คุณมีเหลืออยู่เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณของคุณ คำนวณได้จากการนำจำนวนหน่วยเมื่อสิ้นปีมาคูณกับราคาต่อหน่วยปัจจุบัน

สมมติว่า จาก 1,000 หน่วยที่คุณมีเมื่อต้นปี มี 300 หน่วยเหลืออยู่ และราคาต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 10 ปอนด์เป็น 15 ปอนด์ ดังนั้น สินค้าคงคลังปลายงวดของคุณจะเท่ากับ 300 * 15 ปอนด์ = 4,500 ปอนด์

หากคุณนำค่าสมมติทั้งหมดที่เราคำนวณในส่วนนี้มารวมกัน ต้นทุนขายจะมีลักษณะดังนี้:

cost-of-sales-calculation

จะส่งเงินไปไทยใช่รึเปล่า? มาใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดทุกครั้งกับ Wise ดูสิ

ถ้าคุณอาศัยอยู่ในต่างประเทศ และจำเป็นต้องส่งเงินกลับบ้านที่ไทย คุณจะต้องหาวิธีจัดการเงินระหว่างประเทศให้ดีที่สุด

ในหลายครั้ง อาจสังเกตเห็นว่าการแปลงเงินเป็นเงินบาทและโอนเงินจากต่างประเทศอาจมีราคาแพงมากเมื่อใช้ธนาคารทั่วไป นั่นเป็นเพราะนอกจากธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศแล้ว ในหลายๆ ครั้งอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารก็มีการบวกราคาเพิ่มด้วย

เพราะแบบนี้ Wise ถึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ Wise ใช้อัตราแลกเปลี่ยนกลางของตลาดโดยไม่มีการบวกเงินในอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่ม และจะทำการแจ้งค่าธรรมเนียมก่อนการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้การดูต้นทุนว่าจริงๆ แล้วคุณเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ให้การโอนเงินแต่ละรายการเป็นเรื่องที่สะดวก ง่ายดาย - ซึ่งในหลายๆ ครั้งก็อาจจะถูกกว่าธนาคารถึง 9 เท่า โดยสามารถดูการเปรียบเทียบ Wise กับผู้ให้บริการรายอื่นได้ที่ด้านล่าง

The true cost of sending to THB

มีวิธีลดต้นทุนขายไหม

การหาวิธีลดต้นทุนขายโดยรวมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มผลกำไรโดยรวมของคุณ นี่คือคำแนะนำบางส่วนเกี่ยวกับวิธีลดต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

🌎 พิจารณาแหล่งผลิตสินค้าหรือแหล่งที่มาของวัตถุดิบอีกครั้ง

คุณอาจใช้เวลาพอสมควรในการมองหาคู่ค้าผู้ผลิตที่เหมาะสม แต่เมื่อคุณเริ่มเห็นตัวเลขชัดเจนขึ้น ก็อาจคุ้มค่าที่จะประเมินภาพรวมในประเทศอื่นๆ อีกครั้ง จีนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่ำกว่า Alibaba เป็นหนึ่งในตลาด B2B ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดที่ให้บริการธุรกิจทั่วโลก คุณต้องสั่งสินค้าจำนวนมาก แต่ราคาต่อหน่วยมักจะต่ำมาก อย่าลืมเปรียบเทียบซัพพลายเออร์ที่คุณต้องการกับคู่แข่งและตลาดอื่นๆ ด้วย ซึ่งอาจช่วยให้คุณต่อรองราคาที่ดีขึ้นได้อีก

💶 ใช้บัญชีหลายสกุลเงินเพื่อลดต้นทุนการชำระเงินระหว่างประเทศ

เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณจะตระหนักถึงความสำคัญของการไม่สูญเสียเงินจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่ดีและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงเมื่อคุณส่งหรือรับเงินไปต่างประเทศ (โดยเฉพาะเมื่อคุณจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ในต่างประเทศ)
บัญชีสกุลเงินต่างประเทศมีให้บริการกับธนาคารทั่วไป แต่คุณก็ยังต้องยุ่งยากกับการมีหลายบัญชีสำหรับสกุลเงินทั้งหมดที่คุณใช้ ทำให้การรวบรวมการเงินของคุณซับซ้อนขึ้น

🤖 ใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการทางธุรกิจ

คุณสามารถลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจบางอย่างเมื่อคุณนำระบบอัตโนมัติมาใช้ สิ่งนี้อาจง่ายๆ เช่น การใช้ ซอฟต์แวร์จัดการคำสั่งซื้อ, ระบบ Epos หรือการเข้าถึงฟังก์ชันการชำระเงินแบบกลุ่มสำหรับผู้รับหลายราย สิ่งนี้ช่วยประหยัดเวลาได้ คุณจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่ฟังก์ชันหลักของธุรกิจได้มากขึ้น

📦 ปรับปรุงระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม

การมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อผลกำไรของคุณ เมื่อคุณเข้าใจสินค้าคงคลังของคุณดีพอที่จะคาดการณ์ยอดขายในอนาคตได้แม่นยำขึ้น คุณก็สามารถลดการสต็อกสินค้าเกินความจำเป็นได้ สิ่งนี้ยังช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดของคุณและบ่งบอกถึงการบริหารจัดการการดำเนินงานที่ดีขึ้น

แหล่งที่มา:

  1. บทความบล็อก Accounting Tools
  2. บทความบล็อก Accounting Tools
  3. บทความบล็อก Freshbooks
  4. บทความบล็อก educba
  5. Wise - เรื่องราวของเรา

*โปรดดูข้อกำหนดการใช้งานและผลิตภัณฑ์ที่พร้อมใช้งานในภูมิภาคของคุณ หรือไปที่หน้าค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของ Wiseเพื่อดูข้อมูลราคาและค่าธรรมเนียมล่าสุด

การเผยแพร่นี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ภาษี หรือมืออาชีพด้านอื่นๆ จาก Wise Payments Limited หรือบริษัทในเครือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นการอิงข้อมูลแทนผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินหรือมืออาชีพด้านอื่นๆ

เราไม่รับรอง รับประกัน หรือการันตี ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ว่าเนื้อหาในการเผยแพร่นี้ถูกต้อง สมบูรณ์ หรือเป็นปัจจุบัน

การทำธุรกรรมแบบไร้พรมแดน

เรียนรู้เพิ่มเติม
ธุรกิจ

เจาะลึก Cash Against Documents คืออะไร?

นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ? รู้จัก Cash Against Documents (CAD) วิธีชำระเงินสำคัญสำหรับผู้นำเข้า! เข้าใจขั้นตอน ข้อดี-ข้อเสีย เพื่อการค้าระหว่างประเทศที่มั่นใจ

Aditya Shrivastava
28.10.25 เวลาอ่าน 5 นาที
ธุรกิจ

ABN กับ ACN ต่างกันยังไง?

เปิดธุรกิจในออสเตรเลียต้องรู้อะไร? ABN และ ACN คือหัวใจสำคัญ! มาดูความแตกต่าง การจดทะเบียน และประโยชน์ที่ธุรกิจคุณต้องมี!

Aditya Shrivastava
28.10.25 เวลาอ่าน 6 นาที
ธุรกิจ

ePacket คืออะไร? สรุปครบ จบในที่เดียวสำหรับธุรกิจส่งออกนำเข้า

ePacket: ส่งของจากจีน/ฮ่องกงผ่าน 3PL! รวดเร็ว ปลอดภัย คุ้มค่า! ทำความรู้จักวิธีการส่ง ePacket ที่คุณต้องรู้!

Aditya Shrivastava
28.10.25 เวลาอ่าน 9 นาที

เคล็ดลับ ข่าวสาร และข้อมูลอัปเดตต่างๆ ในประเทศของคุณ